แชร์ประสบการณ์ การขี่จักรยานไปกับเด็กๆ ที่นั่งบนที่นั่งเด็กติดจักรยานของเรา
ถึงเวลาแปลงจักรยานคันเก่งให้เด็กน้อยทั้งสองด้วย ที่นั่งเด็กติดจักรยาน ทั้งแบบด้านหน้าและด้านหลัง
แนะนำสมาชิก
สวัสดีครับ ผมเป็นคนที่ชอบขี่จักรยาน สนุกกับการใช้จักรยานในชีวิตประจำวัน และใช้ขี่เที่ยวที่นู่นที่นี่ภายในกรุงเทพ และเมื่อเวลามาถึงที่จะต้องพาลูกน้อยนั่งจักรยานไปกับเรา เพื่อเป็นกิจกรรมภายในครอบครัว และส่งเสริมประสบการณ์ดีๆระหว่างนั่งจักรยานไปด้วยกัน ผมจึงต้องปรับแต่งจักรยานที่มีอยู่ ติดอุปกรณ์ที่จะเป็นเช่น ที่นั่งเด็กติดจักรยานเพื่อเจ้าตัวน้อย จนจักรยานกลายไปเป็นจักรยานของเด็กๆไป
ตอนนี้มีสมาชิกตัวน้อย 2 คนคือ พี่พาย ตอนนี้อายุ 3 ขวบ 9 เดือน และน้องพรีม 1 ขวบ 6 เดือน สำหรับพี่พาย เค้าได้เริ่มนั่งบนที่นั่งเด็กติดจักรยานมาตั้งแต่ 1 ขวบ และนั่งจักรยานเล่นมาโดยตลอด เรามักจะไปปั่นจักรยานเล่นกันบ่อยๆ ในระแวกบ้านและในสวนรถไฟกันเป็นส่วนใหญ่ เค้าจึงคุ้นกับการนั่งจักรยานเป็นอย่างดี จากนั่งบนที่นั่งเด็กด้านหน้า ก็ย้ายมานั่งที่นั่งเด็กด้านหลัง จนกระทั่ง 2 ขวบครึ่ง ก็ถึงเวลาไปโรงเรียน เราก็ใช้จักรยานขี่ไปรับไปส่งพี่พายตั้งแต่นั้นมา สำหรับน้องพรีม เราลองให้นั่งในที่นั่งเด็กติดจักรยานด้านหน้า ตั้งแต่ 1 ขวบ 3 เดือน แต่ดูเหมือนเค้ายังไม่พร้อมและแสดงความไม่ชอบในครั้งแรกๆ อาจเป็นเพราะความเป็นเด็กหญิงที่เลือกปลอดภัยไว้ก่อน แต่ถึงในตอนนี้ก็มีความคุ้นและเรียกร้องที่จะขอนั่งไปกับเราทุกครั้ง จึงค่อยๆเพิ่มระยะทางให้ไกลขึ้น และใช้เวลานานขึ้น อย่างค่อยเป็นค่อยไป
ขี่จักรยานที่มีเด็กไปด้วยคือประสบการณ์ใหม่
ขี่จักรยานไปด้วยกันนำไปสู่ประสบการณ์ใหม่ของทั้งพ่อและลูก เท่าที่สังเกต สำหรับเด็กๆจะเกิดความตื่นตาตื่นใจ ตื่นเต้น สนใจกับสิ่งรอบตัวไปซะทุกอย่าง ในขณะเดียวกันก็มีความเพลิดเพลินเช่นนั่งร้องเพลงไปด้วย และที่สำคัญเป็นเวลาที่เค้าจะถามและรับฟังเรื่องต่างๆจากเราได้อย่างดี สอนอะไรก็จะจำได้ดี ไม่ว่าจะขี่ในที่ซ้ำๆเด็กก็จะมีวิธีรับรู้ถึงข้อมูลใหม่ๆที่ผ่านเข้ามาอยู่ดี และสำหรับผู้ใหญ่ การขี่จักรยานที่มีเด็กนั่งไปด้วยต้องอาศัยทักษะที่มากขึ้น ต้องฝึกฝนและทำให้เกิดความเคยชิน นอกจากการขี่แล้ว ต้องสามารถสื่อสารกับเด็กได้ ระหว่างขี่ไปด้วยกัน
การพาเด็กนั่งจักรยานไปด้วย เหมือนจะเป็นเรื่องเสี่ยงอันตราย?
การมีเด็กนั่งไปด้วยเป็นความยากอีกระดับ ทั้งร่างกายและจิตใจ ในการขี่ที่จะต้องรับภาระน้ำหนักและความสมดุลที่เปลี่ยนไป วิธีขึ้นลงจักรยานที่เปลี่ยนไป ท่าทางการขี่ที่จะต้องปรับตัวให้เข้ากับที่นั่งเด็กติดจักรยานในแบบต่างๆ เป็นต้น การฝึกซ้อมและออกขี่บ่อยๆสามารถสร้างความเคยชินในจุดนี้ได้
แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดคือ ต้องมีจิตสำนึกเรื่องความปลอดภัยของเด็กๆเป็นหลัก ต้องขี่จักรยานด้วยความปลอดภัยสูงสุด เพื่อลดความเสี่ยงต่างๆที่ควบคุมได้ เช่นมีอะไรให้หยุดและระวังไว้ก่อน หยุดรอให้มั่นใจว่าปลอดภัยก่อนแล้วค่อยไป เป็นต้น ห้ามใจร้อน หรือเสี่ยงกับเหตุการณ์วัดใจต่างๆเหมือนตอนขี่จักรยานคนเดียวเด็ดขาด
ผมเชื่อว่าการพาเด็กนั่งจักรยานไปกับเราเป็นเรื่องที่ทำได้ โดยใช้จิตสำนึกที่ปลอดภัยเป็นที่ตั้ง และย้ำว่า การพาเด็กไปขี่จักรยานจะต้องมีความพร้อมทั้งตัวเด็กและผู้ใหญ่ ต้องมั่นใจกับการออกไปขี่ครั้งนั้นๆ เพราะความปลอดภัยเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงสูงสุด จนถึงความพร้อมของอุปกรณ์ก็เช่นกัน
เตรียมอุปกรณ์
อุปกรณ์สำคัญของเรื่องนี้คือ ที่นั่งเด็กติดจักรยาน ผมเริ่มมองหาที่นั่งเด็กที่มีความปลอดภัยเป็นหลัก และต้องนั่งสบาย นั่งได้นานๆ ในตอนนั้นนั่งค้นข้อมูล หาที่นั่งเด็กที่ตอบโจทย์เรา ซึ่งในไทยไม่มีขายแบบที่ปลอดภัยอย่างที่ต้องการ โดยอิงที่นั่งเด็กมาตรฐานยุโรปอย่างประเทศที่ใช้จักรยานเยอะๆอย่างเนเธอร์แลนด์ จึงมาเจอที่นั่งเด็กติดจักรยานยี่ห้อ Yepp ที่มีคุณสมบัติครบ เช่น เข็มขัดรัดแน่นหนาทั้งไหล่และหน้าตัก เด็กไม่กระเด็นกระดอนในจังหวะต่างๆ วัสดุดีตัวที่นั่งดี ยืดหยุ่นรับแรงกระแทกได้ดี ทดทานในการใช้งาน มีหลายรุ่นสำหรับเด็กเล็ก สำหรับเด็กโต ออกแบบเฉพาะตามอายุและน้ำหนัก มีระบบการยึดที่แข็งแรงและติดตั้งได้หลายวิธี และที่สะดวกคือถอดออกเมื่อไม่ใช้ และใส่กลับได้ง่ายแบบ quick release ไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ และทั้งหมดมีข้อมูลและ certified มาตรฐานชัดเจน ผมจึงตัดสินใจสั่งมาใช้ แต่เนื่องจาก spec สูง ก็มากับราคาที่แพงกว่าที่นั่งเด็กแบบบ้านๆที่ขายในบ้านเรา แต่เพื่อความปลอดภัยและความสบายของเด็กๆแล้วก็ไม่ต้องคิดมาก
ผมได้เขียนเรื่อง การเลือกที่นั่งเด็กติดจักรยาน ไว้อีกเรื่องนึง (ตาม link) จากข้อมูลที่ได้รวบรวมไว้ ตั้งแต่การเตรียมความพร้อมของจักรยาน รูปแบบการติดตั้ง จนถึงคุณสมบัติต่างๆของที่นั่งเด็กติดจักรยาน ขอแชร์ให้กับคุณพ่อคุณแม่ที่สนใจจะพาลูกนั่งจักรยานไปด้วยกัน ได้ลองพิจารณาตามความเหมาะสมและการใช้งาน
จักรยานติดที่นั่งสำหรับเด็ก 2 คน
รถของผมคันนี้ก็กลายเป็นรถของเด็กๆ โดยที่ติดนั่งเด็กติดจักรยานทั้งด้านหน้าและด้านหลัง อุปกรณ์ทั้งหมดมีดังนี้
- ตัวรถเป็นจักรยาน tokyobike รุ่น Bisou คานเฉียง ข้อดีคือเป็นคานเฉียง ตอนขึ้นและลงจักรยาน จะก้าวข้ามง่ายกว่าแบบคานตรง และรถมีลักษณะขี่ง่าย ขี่เบา มีเกียร์ที่ทดแรงได้ดี [26,800 บาท]
- เปลี่ยนยางให้กว้างขึ้น ทำให้ขี่นุ่มนวลขึ้น ลุยได้มากขึ้น กินแรงขึ้นและช้าลงนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไร ไม่รีบครับ [2,300 บาท]
- ที่นั่งเด็กของน้องสาว คือ Yepp รุ่น Mini แบบติดตั้งด้านหน้าแบบหนีบสเต็มคอ ที่ชอบคือเวลาเลี้ยวรถ ที่นั่งจะหันไปกับแฮนด์จักรยานทำให้ขี่แล้วไม่ติดแขนติดขาขณะเลี้ยว ที่นั่งรับน้ำหนักได้ 15 kg. ถอดออกได้ง่ายเมื่อไม่ใช้ - ดูรายละเอียดที่นั่งเด็กรุ่น Yepp mini ตาม link [4,500 บาท]
- ที่นั่งเด็กของพี่ชาย คือ Yepp รุ่น Maxi EasyFit แบบติดกับ rack จักรยานด้านหลัง รับน้ำหนักได้ถึง 22 kg. ที่เลือกแบบติดตั้งบน rack เนื่องจากสามารถใช้กับที่นั่งเด็กอีกรุ่น (Junior) สำหรับเด็กโตได้ต่อไป แต่การติดตั้งแบบ Seat tube หรือรุ่นหนีบท่อก็เป็นทางเลือกที่ดีที่ไม่ต้องปรับแต่หรือหา rack มาเพิ่ม [7,500 บาท]
- Rack จักรยานของ Tubus ที่มีความแข็ง มีวิธีการยึดจับกับตัวจักรยานที่แข็งแรง และรับนำหนักได้มาก [5,000 บาท]
- ขาตั้งคู่ เพื่อจอดจักรยานอย่างมั่งคง และตัวจักรยานอยู่ในแนวตั้งตรง ง่ายต่อการอุ้มเด็กขึ้นจักรยาน [1,200 บาท]
ที่นั่งเด็กด้านหน้า ตอนนี้ผมใช้มา 3 ปีแล้ว และใช้ค่อนข้างบ่อย ตัวที่นั่งยังอยุ่ในสภาพดี ไม่มีบุบสลายอะไร วัสดุที่ใช้ทำตัวเก้าอี้ยังดีเหมือนตอนที่ใช้ในตอนแรก ถือว่าคุ้มค่ากับการใช้งาน
สรุปสุดท้าย
สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของเด็กๆต้องมาเป็นที่หนึ่งในการตัดสินใจที่จะพาเด็กนั่งจักรยานไปกับเรา ด้วยปัจจัยเรื่องความพร้อมต่างๆที่กล่าวมาแล้ว ทั้งคนและรถ เรื่องอุปกรณ์ต่างๆควรศึกษาด้วยตนเองก่อนให้แน่ใจ และปรึกษากับร้านหรือช่างจักรยานที่มีประสบการณ์การติดที่นั่งเด็ก รู้ข้อจำกัดของการติดตั้งแบบต่างๆ และใส่ใจในเรื่องของความปลอดภัยของเด็กและจักรยาน